สุขภาพการเงินที่ดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง

 เครดิตบูโร หรือรายงานข้อมูลเครดิต เป็นเหมือนสมุดพกรายงานพฤติกรรมการใช้และการชำระสินเชื่อทั้งหมดของเรา

 คนที่เคยขอสินเชื่อหรือกำลังอยู่ระหว่างเตรียมตัวเพื่อขอสินเชื่อ คงคุ้นเคยกับคำว่า "เครดิตบูโร" หรือ "ข้อมูลเครดิต"
 
 

กันพอสมควร เพราะรายงานข้อมูลเครดิตเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ใช้ร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ 
แล้วถ้าเราไม่ได้จะขอสินเชื่อล่ะ การตรวจข้อมูลเครดิตของตัวเองจะบอกอะไรกับเราบ้าง วันนี้มีคำตอบมาฝากกัน



ข้อมูลเครดิตคืออะไร ใครเป็นคนเก็บ 

ข้อมูลเครดิตเป็นข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ของคนแต่ละคน ซึ่งจะถูกจัดเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิต ประกอบไปด้วยข้อมูล 2 ส่วน
คือ ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงตัวตนลูกค้า และข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติและประวัติการชำระ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเคยทำบัตรเครดิตมากี่ใบ ขอสินเชื่อรถมากี่คัน ขอสินเชื่อบ้านมากี่หลัง บัญชีนั้นจะอยู่ระหว่างใช้งาน ผ่อนชำระ หรือปิดบัญชีไปแล้ว ก็มีแสดงในรายงานข้อมูลเครดิตทั้งหมด
ถ้าจะพูดในเชิงเปรียบเทียบ ข้อมูลเครดิตก็คล้ายกับสมุดพกรายงานข้อมูลทางด้านการเงิน พฤติกรรมการใช้และการชำระสินเชื่อของแต่ละคนนั่นเอง
ตัวเลขบอกสถานะอย่างไร




ในรายงานข้อมูลเครดิตนั้น แสดงประวัติการชำระหนี้ย้อนหลังรวม 36 เดือน โดยข้อมูลล่าสุดจะแสดงอยู่ด้านบน สำหรับความหมายของสถานะบัญชีในปัจจุบันเป็นอย่างไร
 

จะมีตัวเลขกำกับอยู่ เราลองไปดูความหมายของรหัสเลขต่าง ๆ กัน

  •  10 – ปกติ แปลว่า บัญชีนี้มีการชำระสินเชื่อตามปกติ จ่ายครบ จ่ายตรงตามเงื่อนไข ไม่มียอดค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 30 วัน

  •  11 – ปิดบัญชี แปลว่า สินเชื่อบัญชีนี้ได้มีการปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว ไม่มีหนี้ค้าง

  •  12 – พักชำระหนี้ ตามนโยบายรัฐ แปลว่า ที่ผ่านมาเคยมียอดค้างชำระ แต่ตอนนี้เข้าโครงการพักชำระหนี้ตามนโยบายรัฐ จึงทำให้สถานะไม่เป็นการค้างชำระ

  •  20 – หนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน แปลว่า เคยค้างชำระในอดีต และปัจจุบันก็ยังค้างอยู่ ซึ่งเป็นสถานะที่เป็นผลลบต่อตัวผู้เป็นลูกหนี้เจ้าของบัญชีนี้

เราควรตรวจข้อมูลเครดิตของตัวเองไหม

การตรวจข้อมูลเครดิตของตัวเอง นอกจากจะเป็นการตรวจเช็กข้อมูลตัวเองในเรื่องประวัติการชำระสินเชื่อทั้งหมดที่เรามีว่าเป็นอย่างไรแล้ว ยังช่วยตรวจสอบให้กับตัวเองอีกด้วยว่าเอกสารสำคัญส่วน

ตัวของเรานั้น มีใครนำไปแอบอ้างทำอะไรหรือไม่ เช่น ปลอมแปลงสำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารการเงินต่าง ๆ ไปสมัครสินเชื่อโดยใช้ชื่อเรา

ขอเช็กได้ที่ไหนบ้าง




สำหรับใครที่อยากเช็กข้อมูลเครดิตของตัวเอง สามารถเตรียมบัตรประชาชนแล้วนำไปตรวจสอบแบบรอรับผลได้เลย ซึ่งมีจุดบริการหลายแห่งด้วยกัน เช่น
 
 - อาคารกลาสเฮ้าส์ (ชั้นใต้ดิน) ปากซอยสุขุมวิท 25

 - สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง

 - ห้างเจ-อเวนิว (นวนคร) ชั้น 4 ติดกับสำนักงานประกันสังคม

 - CITI สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, ศูนย์การค้าเมกา บางนา

 - ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สำนักงานใหญ่ อาคาร 2 ชั้น 2

แต่หากใครไม่สะดวกเดินทางไปขอเช็กเครดิตบูโรด้วยตัวเอง ก็สามารถมอบอำนาจได้ โดยเตรียมเอกสาร ดังนี้

- บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาบัตรประชาชน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง ของผู้มอบอำนาจ (ผู้ที่ต้องการตรวจเครดิตบูโร)

- บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาบัตรประชาชน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง ของผู้รับมอบอำนาจ

- หนังสือมอบอำนาจตรวจสอบข้อมูลเครดิต สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ www.ncb.co.th

การตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตัวเอง ก็คล้ายกับการตรวจร่างกายประจำปี อย่างน้อยก็ช่วยให้เรารู้ว่าปีนี้ยังมีสุขภาพการชำระเงินที่แข็งแรงเหมือนเดิมอยู่ไหม 

อย่าลืมว่า "สุขภาพการเงินที่ดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง" 

แหล่งข้อมูล: บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (www.ncb.co.th)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 

K-Expert Action 

  •           รักษาประวัติการชำระหนี้ให้ดี เพื่อเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อในอนาคต

  •          ตรวจข้อมูลเครดิตของตัวเอง เพื่อให้ทราบประวัติการชำระสินเชื่อทั้งหมดที่มี